ตำนาน “ราชันชุดขาว” ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์จอมเก๋าชาวโครเอเชีย ประกาศอำลาเรอัล มาดริดอย่างเป็นทางการ หลังรับใช้ทีม 13 ปีเต็ม ปิดฉากบทบาทหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยผลงานคว้าแชมป์ 28 รายการ รวมถึงแชมเปียนส์ลีก 6 สมัย และบัลลงดอร์ 2018 เขายังคงเป็นที่รักของแฟนบอลทั่วโลก และพร้อมสานต่อมรดกอันยิ่งใหญ่ในเส้นทางใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า คุณสามารถติดตามรับชมการแข่งขันของเขา ที่นี่ heng99 บอลสด พร้อมความบันเทิงครบวงจร 24ชม.
รูปภาพ ลูก้า โมดริช ของ heng99
ลูก้า โมดริช ประกาศอำลาสโมสร
นี่คือการปิดฉากยุคทองของหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ถูกยกย่องว่า “ครบเครื่องที่สุดในโลก” ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่หวือหวาแต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ โมดริชจะถูกจดจำตลอดไปในหัวใจของแฟนบอลราชันชุดขาวทั่วโลก
ถึงเวลาแล้ว ช่วงเวลาที่ผมไม่เคยอยากให้มาถึง แต่ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ และในชีวิตทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด… ในวันเสาร์นี้ ผมจะลงเล่น ฟุตบอลวันนี้ เกมสุดท้ายที่ซานติอาโก เบร์นาเบว”
“ผมมาถึงที่นี่ในปี 2012 ด้วยความปรารถนาที่จะสวมเสื้อของทีมที่ดีที่สุดในโลก และมีความทะเยอทะยานที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่ผมนึกภาพไม่ออกว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป การได้ลงเล่นให้กับเรอัล มาดริดทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไปทั้งในฐานะนักเตะและในฐานะคนคนหนึ่ง”
“ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของยุคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดยุคหนึ่งของสโมสรที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ผมอยากขอบคุณสโมสรจากใจจริง โดยเฉพาะประธานสโมสร ฟลอเรนติโน เปเรซ เพื่อนร่วมทีม โค้ช และทุกคนที่ช่วยเหลือผมมาตลอดช่วงเวลานี้”
เส้นทางค้าแข้งของ ลูก้า โมดริช
ลูก้า โมดริช (Luka Modrić) มีเส้นทางค้าแข้งที่โดดเด่น ดังนี้
- 1985-2003 : เริ่มต้นและเยาวชน
- เกิดวันที่ 9 กันยายน 1985 ที่เมืองซาดาร์ โครเอเชีย
- เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่น NK Zadar
- เข้าสู่อะคาเดมี่ของดินาโม ซาเกร็บ ในปี 2002
- 2003-2008 : ดินาโม ซาเกร็บ
- ลงเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2003
- ถูกยืมตัวไปเล่นที่ Zrinjski Mostar (บอสเนีย) ในปี 2003-04 และ Inter Zaprešić (โครเอเชีย) ในปี 2004-05
- กลับมาดินาโม ซาเกร็บ คว้าแชมป์ลีกโครเอเชีย 3 สมัย (2005-06, 2006-07, 2007-08) และโครเอเชียนคัพ 2 สมัย
- ลงเล่นรวม 128 นัด ยิง 31 ประตู
- 2008-2012 : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- ย้ายสู่ท็อตแน่มในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์ ในปี 2008
- กลายเป็นกองกลางตัวหลัก ช่วยทีมคว้าอันดับ 4 พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2009-10 และเข้าถึงรอบควอเตอร์ไฟนัล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2010-11
- ลงเล่น 160 นัด ยิง 17 ประตู
- 2012-2025 : เรอัล มาดริด
- ย้ายมาร่วมทีมเรอัล มาดริด ในลาลีกา สเปน ด้วยค่าตัวราว 30 ล้านปอนด์ ในปี 2012
- กลายเป็นหัวใจในแดนกลาง ด้วยสไตล์การเล่นที่ชาญฉลาด จ่ายบอลแม่นยำ และควบคุมจังหวะเกม
- คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 6 สมัย (2014, 2016, 2017, 2018, 2022, 2024), ลาลีกา 4 สมัย (2012-13, 2016-17, 2019-20, 2021-22), โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, และสโมสรโลก 5 สมัย
- คว้าบัลลงดอร์ในปี 2018 กลายเป็นนักเตะโครเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลนี้
- ลงเล่นมากกว่า 500 นัดให้เรอัล มาดริด ยิงประตูราว 40 ประตู (ข้อมูลถึงปี 2025)
- ทีมชาติโครเอเชีย : (2006-ปัจจุบัน)
- ลงเล่นให้ทีมชาติครั้งแรกในปี 2006
- นำทีมชาติโครเอเชียเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 (รองแชมป์) และคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2022
- ลงเล่นมากกว่า 170 นัด ยิงประตูราว 24 ประตู (ข้อมูลถึงปี 2023)
ฟอร์มและผลงานของลูก้า โมดริช กับ เรอัล มาดริด
ย้ายจากท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ มาสู่ถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบวเมื่อปี 2012 และกลายเป็นหัวใจในแดนกลางของมาดริดทันที ด้วยสไตล์การเล่นที่นิ่ง เนียน และฉลาด เขาไม่เพียงแค่ควบคุมจังหวะเกมเท่านั้น แต่ยังสร้างสรรค์โอกาสสำคัญจนกลายเป็นแกนหลักของทีมยุครุ่งเรือง
ตลอดระยะเวลาในกรุงมาดริด ช่วยทีมคว้าแชมป์ได้มากถึง 28 รายการ รวมถึงถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกถึง 6 สมัย และยังคว้าบัลลงดอร์ในปี 2018 ซึ่งถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่ตอกย้ำถึงความสำเร็จของเขาทั้งในระดับสโมสร
ฟุตบอลสด เกมสุดท้ายของโมดริชในลาลีกาจะมีขึ้นในวันเสาร์นี้ พบกับเรอัล โซเซียดาด ก่อนที่เขาจะร่วมทีมเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อเตรียมลงเล่นในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก โดยจะพบกับอัล ฮิลาล ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ หลังจบทัวร์นาเมนต์ โมดริชจะอำลาสโมสรอย่างเป็นทางการ
ลงเล่นให้มาดริดมากกว่า 500 นัด และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในยุคของเขา ผู้เล่นคนแรกที่คว้าบัลลงดอร์ในยุคหลังเมสซี่-โรนัลโด้ ได้ในปี 2018 จากผลงานพาทีมชาติโครเอเชียเข้าชิงฟุตบอลโลก และเป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ค้าแข้งกับเรอัล มาดริดยาวนานที่สุด เทียบเท่าตำนานอย่างมาร์เซโล่ และโรแบร์โต้ คาร์ลอส
อนาคตของลูก้า โมดริช
ลูก้า โมดริช จะอำลาเรอัล มาดริด หลังฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 2025 ปิดฉากตำนาน 13 ปีกับมาดริด แม้จะมีข่าวลือว่าเขาอาจย้ายไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ แต่ยังไม่ยืนยันบทบาทหรือสโมสรใหม่
เขาวางแผนเล่นต่อถึงปี 2026 เพื่อลงเล่นฟุตบอลโลก 2026 กับโครเอเชีย และมีข้อเสนอจากลีกซาอุดีอาระเบีย และ MLS ซึ่งเขาจะตัดสินใจเร็ว ๆ นี้ ส่วนทางด้านเรอัล มาดริด ได้เสนอบทบาทโค้ช แต่โมดริชยังอยากลงสนามต่อ และด้วยการลงทุนในสวอนซี ซิตี้ เขาอาจหันสู่การบริหารสโมสรในอนาคต ในวัย 39 ปี โมดริชยังคงเป็นที่รักและจะทิ้งตำนานอันยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลไม่ว่าเลือกเส้นทางใด
รูปภาพสมัครแทงบอลดูบอลฟรีไม่มีสะดุดของ heng99
สรุป
ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์จอมเก๋าชาวโครเอเชีย ปิดฉากตำนาน 13 ปี กับเรอัล มาดริด ด้วยความยิ่งใหญ่ในฐานะหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเล่นที่เฉียบคม การจ่ายบอลที่แม่นยำ และความทุ่มเทในทุกนัด โมดริชคว้าแชมป์มากมาย รวมถึงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 6 สมัย และลาลีกา 4 สมัย พร้อมทั้งคว้าบัลลงดอร์ในปี 2018 เขาคือนักเตะที่เป็นเลิศ และมีความมุ่งมั่น ทิ้งตำนานอันล้ำค่าไว้ในใจแฟนบอล “ราชันชุดขาว” ตลอดกาล
บทความที่เกี่ยวข้อง
- สองยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก แอสตัน วิลล่า และ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เปิดศึกแย่งลายเซ็น โจนาธาน เดวิด กองหน้าลีลล์ แบบไร้ค่าตัว
- แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง MonoMax Premier HD1 ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก ครบทุกแมตช์สำคัญ พร้อมแพ็กเกจราคาการรับชมที่เกินคุ้ม!!
- อาร์ด้า กูแลร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง เรอัล มาดริด มีส่วนร่วมในประตู 14 ประตู จาก 1,471 นาทีที่ลงเล่น ผลงานโดดเด่น ในฤดูกาล 2024/25
- มาแล้ว! เว็บ asia999 สล็อตออนไลน์ ที่กำลังมาแรง พร้อมเล่นได้แบบจัดเต็ม โบนัสแตกรัวๆ การันตีความมันส์100%
- เผยสถิติหวย ลาวล่าสุด ย้อนหลัง 5 งวด พร้อมเคล็ดลับวิเคราะห์เลขเด็ดจากสถิติ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสถูกรางวัล เทคนิคง่าย ๆ ที่นักเสี่ยงโชคไม่ควรพลาด
